ที่มา: http://www.ttp.ac.th/kru%20fon/images/sampledata/Techno/e0b882e0b989e0b8ade0b8a1e0b8b9e0b8a5.jpg
ความหมาย
ในสังคมปัจจุบันซึ่งเป็นสังคมแห่งสารสนเทศ
บุคคลในสังคมจำเป็นต้องรับข้อมูลข่าวสารอย่างท่วมท้น
บุคคลทุกคนจำเป็นต้องมีการพัฒนาตนเอง
เพื่อรับรู้ข้อมูลข่าวสารได้อย่างเหมาะสมและถูกต้อง คนในสังคมปัจจุบันจึงต้องมีการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา
เพื่อการเท่าทันในข้อมูลข่าวสารที่หลากหลาย
สังคมปัจจุบันจึงเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
การศึกษาต้องมุ่งเพิ่มขีดความสามารถและโอกาสในการเรียนรู้ของบุคคล
และพัฒนาทักษะการรู้สารสนเทศให้แก่บุคคลในสังคมอย่างสม่ำเสมอ
เพื่อสามารถนำความรู้ไปใช้ในสังคมได้อย่างยั่งยืน นักวิชาการหลายท่านได้ให้ความหมายของคำว่า
การรู้สารสนเทศครอบคลุม
การมีพฤติกรรมเข้าถึงสารสนเทศที่เหมาะสมอย่างมีความคิดและจริยธรรม
โดยผ่านช่องทางหรือสื่อใดๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งสารสนเทศตามความต้องการ (SUNY Council of Library
Directors Information Literacy Innitiative, 2003) ซึ่งสรุปได้ว่า
การรู้สารสนเทศ หมายถึงการรู้ถึงความจำเป็นของสารสนเทศ (ข้อมูลข่าวสาร)
การเข้าถึงแหล่งสารสนเทศ การพัฒนาทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
การวิเคราะห์และประเมินสารสนเทศ การจัดระบบประมวลสารสนเทศ
การประยุกต์ใช้สารสนเทศเพื่อการตัดสินใจที่มีประสิทธิผลและสร้างสรรค์
การสรุปอ้างอิงและสื่อสารข่าวสารอย่างมีประสิทธิภาพ
ความเข้าใจและยอมรับในจริยธรรมของข้อมูลข่าวสาร
การพัฒนาเจตคตินำไปสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต
ดังนั้นการรู้สารสนเทศของบุคคล
จะช่วยส่งเสริมให้บุคคลสามารถเข้าถึงสารสนเทศจากทั่วทุกมุมโลก
และนำสารสนเทศออกเป็นความรู้ เพื่อนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นับเป็นการส่งเสริมเสรีภาพในการเรียนรู้ของทุกคนอย่างแท้จริงความเป็นมา
จากวรรณคดีและงานวิจัยจากองค์กรและสถาบันต่างๆ สามารถจำแนกทักษะการเรียนรู้ในทศวรรษที่ 21 ได้เป็น 4 ลักษณะคือ 1. ทักษะสารสนเทศและการสื่อสาร 2. ทักษะการคิดและการแก้ปัญหา 3. ทักษะปฏิสัมพันธ์และการชี้นำตนเอง 4.
การรับผิดชอบต่อสังคม จากทักษะการเรียนรู้ดังกล่าว จะเห็นได้ว่า
ทักษะการรู้สารสนเทศ
เป็นทักษะหนึ่งที่สำคัญยิ่งสำหรับการเรียนรู้ในทศวรรษนี้
การรู้สารสนเทศ (Information Literacy)
เป็นคำที่พบในบริบทต่างๆ ทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย
และประเทศอังกฤษ ซึ่งในประเทศอังกฤษนั้นได้ใช้คำว่า ทักษะสารสนเทศ
การเรียนรู้สารสนเทศหรือทักษะสารสนเทศเกิดขึ้นในราวต้นคริสต์ศักราช 1974 และได้ใช้คำทั้งสองรวมกันและบางครั้งได้ใช้ในความหมายเดียวกัน หากยุคศตวรรษที่ 21
นี้การรู้สารสนเทศนี้มิได้ถูกจำกัดให้อยู่ในรูปแบบของสื่อดังกล่าวเท่านั้น
สารสนเทศได้ถูกขยายขอบเขตไปยังสื่อที่เป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น ซีดีรอม
ฐานข้อมูลออนไลน์ เป็นต้น
ทำให้ความสามารถในการรู้สารสนเทศต้องผสมผสานทักษะด้านการค้นคว้า
นอก
จากนี้ยังมีการนำเสนอสารสนเทศในลักษณะต่างๆ ได้แก่ การรู้สื่อ
เป้นความสามารถในการเปลี่ยนแปลง วิเคราะห์ ประเมิน และสื่อสาร
ในรูปแบบที่มีความหลากหลายของสื่อคอมพิวเตอร์
การ
รู้สารสนเทศจึงเป็นเป้าหมายการเรียนรู้ของบุคคล
การรู้สารสนเทศต้องอาศัยความสามารถในการเข้าถึง ประเมิน และการใช้สารสนเทศ
การรู้สารสนเทศจึงเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างคุณลักษณะให้บุคคลเป็นผู้มี
ความรู้ มีความคิดวิเคราะห์
มีความสามารถด้านสารสนเทศและช่วยให้บุคคลเป็นผู้เรียนรู้ตลอดชีวิต
องค์ประกอบของการรู้สารสนเทศ
โดยต้องมีความสามารถดังต่อไปนี้
1.ความ
สามารถในการเข้าถึงสารสนเทศ
ประกอบด้วยความสามารถทางกายภาพและสติปัญญาในการเข้าถึงสารสนเทศ
สามารถระบุแหล่งสื่อค้น ด้วยการใช้ความรู้และกลยุทธ์เพื่อคดสรร วิเคราะห์
สังเคราะห์ สร้างสรรค์และสื่อสาร กับฐานข้อมูลทั่วไป
2. ความ
สามารถในการประเมินสารสนเทศ ประกอบด้วยความสามารถในการสังเคราะห์
หรือตีความ สามารถตัดสินใจได้ว่าแหล่งสารสนเทศใดมีความน่าเชื่อถือ
3.ความสามารถในการใช้สารสนเทศ รวมถึงมรรยาทในการใช้สารสนเทศและประสิทธิภาพในการจัดการสารสนเทศที่สืบค้นได้ตรงตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้
คุณลักษณะและความสามารถในการรู้สารสนเทศ
SUNY Council of Library Information Literacy Initiative (2003) ได้เสนอคุณลักษณะและความสามารถในการรู้สารสนเทศของบุคคลดังนี้
1.ตระหนักถึงความจำเป็นของสารสนเทศ
2.สามารถกำหนดขอบเขตของสารสนเทศที่จำเป็น
3.เข้าถึงสารสนเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4.ประเมินสารสนเทศและแหล่งสารสนเทศได้
5.นำสารสนเทศที่คดสรรแล้วสู่พื้นความรู้เดิมได้
6.มีประสิทธิภาพในการใช้สารสนเทศได้ตรงตามวัตถุประสงค์
7.เข้าใจประเด็นทางเศรษฐกิจสังคมและวัฒนธรรมและกฎหมายในการใช้สารสนเทศ
8.เข้าถึงและใช้สารสนเทศได้อย่างมีจริยธรรมและถูกกฎหมาย
9.แบ่งประเภทจัดเก็บและสร้างความเหมาะสมให้กับสารสนเทศที่รวบรวมไว้
10.ตระหนักว่าการรู้สารสนเทศช่วยให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต
American Association of School Librarians &Association for Educational Communications and Technology (2004) ได้เสนอมาตรฐานของผู้รู้สารสนเทศไว้ 3 ระดับด้วยกัน กล่าวคือ มาตรฐานทั่วไป ประกอบด้วย มาตรฐานที่1-3 การเรียนรู้อย่างอิสระประกอบด้วยมาตรฐานที่ 4-6 และความรับผิดชอบต่อสังคมประกอบด้วยมาตรฐานที่7-8 ดังต่อไปนี้
มาตรฐาน ที่
1.ผู้เรียนเข้าถึงสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล
2.ผู้เรียนประเมินสารสนเทศอย่างมีวิจารณญาณ และมีความสามารถ
3.ผู้เรียนให้สารสนเทศอย่างถูกต้องและสร้างสรรค์ การเรียนรู้อย่างอิสระ
4.ผู้เรียนมีอิสระในการเรียนรู้ ต้องรู้สารสนเทศ และแสวงหาสารสนเทศที่เกี่ยวข้องความสนใจส่วนตัวได้
5.ขั้นประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผล เป็นการวิเคราะห์สารสนเทศ ที่สืบค้นได้จากแหล่งต่างๆ และนำเสนอสารสนเทศ
6.ผู้เรียนที่มีอิสระในการเรียนรู้ ต้องรู้สารสนเทศ ต้องมุ่งแสวงหาสารสนเทศ และสร้างองค์ความรู้อย่างยอดเยี่ยม ความรับผิดชอบต่อสังคม
7.ผู้เรียนสร้างประโยชน์ต่อชุมชนแห่งการเรียนรุ้และสังคม เป็นผู้รู้สารสนเทศและตระหนักถึงความสำคัญของสารสนเทศที่มีต่อสังคมประชาธิปไตย
8.ผู้
เรียนสร้างประโยชน์ต่อชุมชนแห่งการเรียนรู้และสังคม เป็นผู้รู้สารสนเทศ
และฝึกฝนให้มีพฤติกรรมที่มีจริยธรรม
อันเกี่ยวข้องกับสารสนเทศและเทคโนโลยีสารสนเทศ
แนวทางการส่งเสริมการรู้สารสนเทศ
ที่มา: https://encrypted-tbn1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTPkYS0BEbwWBqiK8JnkCIRmZaXAuqcc_G4TGgqaOp8UVG7mqCAOg
โดยมี6ขั้นตอน ได้แก่
1.การกำหนด ภาระงาน เป็นการระบุปัญหา หรือกำหนดขอบเขตของสารสนเทศที่ต้องการใช้ และกำหนดวัตถุประสงค์เพื่อการค้นหาสารสนเทศในขั้นต่อไป
2.การกำหนดกลยุทธ์แสวงหาสารสนเทศ เป็นการกำหนดว่าแหล่งสารสนเทศใดมีสารสนเทศที่ต้องการ
3.การกำหนดแหล่งสารสนเทศและการเข้าถึงสารสนเทศ เป็นการระบุที่อยู่ของสารสนเทศ
4.การใช้สารสนเทศเป็นการอ่าน พิจารณาสารสนเทศที่ต้องการและคัดเลือกข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องออกมาใช้ได้ตรงกับที่ต้องการ
5.ขั้นประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผล เป็นการวิเคราะห์สารสนเทศที่สืบค้นได้จากแหล่งต่างๆและนำเสนอสารสนเทศ
6.ขั้นประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผล เป็นการวิเคราะห์สารสนเทศที่สืบค้นได้จากแหล่งต่างๆและนำเสนอสารสนเทศ
สำหรับสังคมไทยมีพื้นฐานจาก The big 6 Skills Model ดังกล่าวข้างต้นมี4ขั้นตอน
1.กำหนดภารกิจคือต้องการรู้อะไรปัญหาหรือข้อสงสัยคืออะไร
2.ตรงจุดเข้าถึงแหล่งคือการเข้าหาคำตอบว่าอยู่ที่ไหน มีวิธีเข้าถึงและการใช้แหล่งความรู้ได้อย่างไร
3.ประเมินสารสนเทศ คือ การคัดสรรสารสนเทศอย่างไรให้ตรงกับจุดที่ต้องการรู้ และน่าเชื่อถือ
4.บูรณาการวิธีการใช้งาน คือ การมีวีการใด ใช้ในการนำสิ่งที่ค้นพบมาสรุป นำเสนอและสื่อสารกับผู้อื่น
ประโยชน์ของการรู้สารสนเทศ
ที่มา: http://707050krongkan.files.wordpress.com/2011/07/3-vi.jpg
จากผลการวิจัยพัฒนารูปแบบการส่งเสริมการรู้สารสนเทศสำหรับสังคมไทยพบว่ารูปแบบการเสริมสร้างการรู้สารสนเทศ 4
ขั้นตอนคือ กำหนดภารกิจ ตรงจุด เข้าถึงแหล่ง ประเมินสารสนเทศ
และบูรณาการวิถีการใช้งาน ได้ถูกนำไปใช้
และพยายามคิดค้นกลยุทธ์ในการเสริมสร้างการเสริมสร้างการรู้สารสนเทศให้เหมาะ
สมกับธรรมชาติและบริบทของแต่ละท้องถิ่น
ดัง
นั้น
การศึกษานอกโรงเรียนจึงต้องเน้นกระบวนการพิจารณาคุณค่าของการรู้สารสนเทศ
เพื่อเป็นแกนการเรียนรู้ศาสตร์ต่างๆในบริบทของชีวิตแต่ละบุคคล
การศึกษานอกโรงเรียนต้องมุ่งให้บุคคลรู้ถึงความจำเป็นของสารสนเทศ
การเข้าถึงแหล่งสารสนเทศ
การพัฒนาทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศการวิเคราะห์และประเมินสารสนเทศ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น